ผลประโยชน์หลักของการเทรดบนบัญชีของประเภทนี้คือ:
คำสั่งซื้อขายในตลาดจะได้รับการดำเนินการที่ราคาตลาดที่ดีที่สุดของผู้ให้บริการสภาพคล่องเมื่อคำสั่งซื้อเข้าถึงระบบการเทรดอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมันจะได้รับการดำเนินการด้วยเทคโนโลยี NDD ดังนั้นแล้วมันอาจคลาดเคลื่อนระหว่างราคาที่คุณเห็นในเทอร์มินัล และราคาของการดำเนินการ นอกจากนั้น ส่วนต่างของราคายังอาจเป็นผลดีต่อคุณ เนื่องจากระบบสามารถมอบสภาพคล่องที่สูงให้กับคุณ ส่วนต่างของราคาภายใต้เงื่อนไขทั่วไปนี้จึงทั้งไม่มีอยู่หรือไม่มีความสำคัญเลย ภายใต้สภาพคล่องที่ต่ำหรือเงื่อนไขความผันผวนที่รุนแรง โดยทั่วไปแล้วส่วนต่างของราคาจะสูงกว่าในตลาดที่เงียบ
เมื่อราคาถึงระดับ stop order ใน MT4 แล้ว คำร้องขอสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อจะได้รับการส่งผ่านสะพานไปยังระบบการเทรด ที่ซึ่งคำสั่งซื้อจะได้รับการจัดการด้วยราคาตลาดที่ดีที่สุดของผู้ให้บริการสภาพคล่องในช่วงเวลาที่คำสั่งซื้อเข้าถึงระบบ ดังนั้นแล้ว ส่วนต่างของราคาระหว่างราคาที่รับได้ต่ำสุด (stop price) และราคาการดำเนินการจึงอาจเกิดขึ้น ในกรณีของ stop order เช่นเดียวกับในกรณีการจัดการของคำสั่งซื้อขายในตลาด นอกจากนี้ ส่วนต่างของราคาอาจยังเป็นผลดีต่อคุณ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์การดำเนินการตามตลาดได้จากด้านบน
เมื่อราคาเข้าถึงระดับ limit order ใน MT4 คำร้องขอเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคำสั่งซื้อจะถูกส่งผ่านสะพานไปยังระบบการเทรด โปรดทราบว่าการดำเนินการสั่งซื้อบางส่วนนั้นสามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการซื้อ 200 ล็อต EUR/ USD ที่ 1.27500 หากมีราคานี้เหลือเพียง 100 ล็อตสำหรับการซื้อ ปริมาณทั้งหมดของธุรกรรมของคุณจะเป็น 100 ล็อต (ไม่ใช่ 200 ล็อต) ซึ่งเป็นปริมาณที่มีในตลาดในปัจจุบัน เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คุณมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการดำเนินการบางส่วนเฉพาะเมื่อจัดการกับธุรกรรมที่มีปริมาณขนาดใหญ่
อีกทั้ง โปรดทราบว่า หากคุณใช้ความสะดวกของ limit order คุณจะไม่มีทางได้รับราคาที่แย่กว่ารายการที่ระบุไว้ในคำสั่งซื้อของคุณ เช่น คุณจะได้รับการดำเนินการสั่งซื้อในราคาที่ร้องขอหรือในราคาที่ดีกว่า
จะมีการลบคำสั่งซื้อที่รอกำเนินการ SELL LIMIT, BUY LIMIT, SELL STOP, BUY STOP โดยอัตโนมัติภายใน 180 วันหลังจากบรรจุ
หากเมื่อใดก็ตาม «หุ้นทุน» (ยอดคงเหลือปัจจุบันรวมถึงการเปิดสถานะ) นั้นเท่ากับหรือต่ำกว่า 50% ของมาร์จิ้นที่ถือสำหรับการเปิดสถานะ ดีลเลอร์จะมีสิทธิ์ตามดุลยพินิจของเขาที่จะปิดการเปิดสถานะเพื่อคงไว้ซึ่งข้อกำหนดมาร์จิ้น
ในระหว่างสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ ข้อกำหนดมาร์จิ้นอาจเพิ่มระหว่าง 1% ถึง 3% (เช่น เลเวอเรจสูงสุดสำหรับช่วงเวลานี้จะเป็น 1:33) โดยลูกค้าจำเป็นจะต้องทำให้การเปิดสถานะของตนสอดคล้องกับข้อกำหนดมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 นาทีก่อนการปิดเซสชันการเทรด (ก่อนการประมูล)